เทคนิคผ่อน ทาวน์โฮม ให้หมดเร็วทำได้อย่างไร

0
336
ผ่อน ทาวน์โฮม

ผ่อน ทาวน์โฮมยิ่งนาน ดอกเบี้ยยิ่งบาน ทำอย่างไรให้ผ่อนได้เร็ว

เมื่อซื้อทาวน์โฮม แน่นอนว่าไม่อยากเป็นหนี้กับธนาคารนาน อยากจะปิดหนี้ให้เร็ว แต่สภาพทางการเงินก็ไม่ได้เอื้ออำนวยในยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ ทางที่ดีนอกจากจะต้องประหยัด ไม่สร้างหนี้เพิ่ม และหารายได้พิเศษแล้ว ยังจำเป็นต้องรู้วิธีผ่อนบ้าน โปะบ้าน ปัจจุบันนี้การเป็นเจ้าของบ้านสักหลังหนึ่งไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ต้องรอเก็บเงินก้อนใหญ่ ก็สามารถซื้อบ้านได้ด้วยการขอสินเชื่อ แค่เพียงมีรายได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ อาชีพการงานที่มั่นคง มีความสามารถในการชำระหนี้ หรือมีประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมาดี ก็มีโอกาสได้รับพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ แต่เมื่อซื้อบ้านด้วยการขอสินเชื่อแล้ว สิ่งที่ตามมา ก็คือ ดอกเบี้ย ซึ่งรู้หรือไม่ว่า กว่าจะผ่อนบ้านหมดสักหลังหนึ่ง ต้องจ่ายดอกเบี้ยเป็นเงินเท่าไร แล้วถ้าไม่อยากจ่ายดอกเบี้ยเยอะๆ หรืออยากให้ภาระหนี้ก้อนนี้หมดเร็วๆ จะทำอย่างไรได้บ้าง
ผ่อน ทาวน์โฮม
สมมติกู้ซื้อบ้าน 3 ล้านบาท ถ้าเลือกผ่อนสัก 10 ปี จะจ่ายดอกเบี้ยประมาณ 9 แสนบาท แล้วถ้าเลือกผ่อนนานขึ้นเป็น 20 ปี คิดเป็นดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมดประมาณ 2.5 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในการกู้ซื้อบ้านหลังหนึ่ง เทียบได้กับราคารถยนต์คันหนึ่ง หรือสามารถซื้อบ้านได้อีกหลังหนึ่งเลยทีเดียว แต่เราสามารถประหยัดดอกเบี้ยจากการผ่อนบ้านได้
ผ่อนบ้านยังไงเงินต้นถึงจะหมดเร็ว

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าโดยปกติแล้วค่างวดที่เราต้องส่งให้กับธนาคารในทุก ๆ เดือน นั้นจะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนก็คือเงินต้นและดอกเบี้ย ในช่วงแรก ๆ จะหนักไปที่การเสียดอกเบี้ยมากกว่า เช่น กู้ซื้อบ้านราคา 2 ล้านบาท มีดอกเบี้ย 7% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนทั้งหมด 30 ปี งวดละ 14,000 บาท
โดยเงินจำนวนนี้จะหักเงินต้นไปทั้งหมด 2,075 บาท แต่นำไปหักดอกเบี้ยมากถึง 11,925 บาทเลย แต่ดอกเบี้ยจากการผ่อนบ้านนั้น เป็นการผ่อนบ้านแบบลดต้นลดดอก ยิ่งคุณผ่อนจนเงินต้นลดน้อยลงดอกเบี้ยก็ยิ่งน้อยลงตาม นั่นหมายความว่าหากคุณสามารถจัดการกับเงินต้นได้ คุณก็ยิ่งผ่อนบ้านได้เร็วขึ้นนั่งเองครับ

  • ผ่อนจ่ายเกินทุกงวด

เงินที่เราผ่อนในแต่ละงวดนั้นจะประกอบด้วย เงินต้นและดอกเบี้ย แน่นอนว่าจะหนักไปที่ดอกเบี้ยมากกว่า แต่ถ้าคุณจ่ายเงินเกินกว่าจำนวนที่ทางธนาคารกำหนดให้คุณจ่ายมาในแต่ละเดือน เงินส่วนที่เกินมานั้นก็จะไปหักกับเงินต้นเดิม ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถผ่อนได้หมดไวขึ้น

ตัวอย่างเช่น ในแต่ละงวดคุณต้องจ่ายค่าผ่อนบ้านให้กับธนาคาร 10,000 บาทเป็นระยะเวลา 30 ปี แต่ถ้าหากคุณโปะเพิ่มไปอีกเป็นจ่ายเดือนละ 20,000 บาท จะช่วยลดระยะเวลาในการผ่อนจาก 30 ปีเหลือเพียง 9-10 ปีเท่านั้น

ผ่อน ทาวน์โฮม

แต่ถ้าหากไม่ได้มีเงินโปะทีละมาก ๆ ทุกเดือน คุณอาจเลือกโปะเพิ่มทีละนิด ประมาณ 10 – 20% ก็ช่วยลดเงินต้นลงไปได้มากเช่นกัน อีกทั้งยังไม่กระทบกับภาระทางการเงินของคุณอีกด้วย

  • จ่ายเพิ่มปีละครั้ง

ข้อนี้จะคล้าย ๆ กับข้อที่ 1 แต่จะต่างกันตรงที่การจ่ายเพิ่มปีละครั้งนั้นจะเป็นการจ่ายเพิ่มอีกงวดนึงแทน จึงกลายเป็นว่าจากเดิมที่คุณผ่อนจ่าย 12 ครั้งต่อปี ก็กลายมาเป็น 13 ครั้งต่อปี แม้ที่จ่ายเพิ่มจะไม่ได้เป็นเงินจำนวนมาก แต่ก็ช่วยลดจำนวนเงินต้นลงไปได้เหมือนกันครับ

  • รีบโปะบ้านเพิ่มช่วงอัตราดอกเบี้ยต่ำ

ช่วง 3 ปีแรกของการผ่อนบ้าน ธนาคารจะมีอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ ตามโปรโมชั่นหรือเงื่อนไขที่ธนาคารนั้น ๆ กำหนดไว้ หากในช่วงนั้นคุณมีเงินก้อนมาพยายามโปะ จะทำให้เงินต้นลดลงไปได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ สินเชื่อบ้านนั้นเป็นรูปแบบการกู้แบบลดต้นลดดอก การโปะเงินเพิ่มเพื่อลดเงินต้น จะทำให้ดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายในช่วงหลังจากนี้ลดลงไปอีกด้วย อาจจะเริ่มต้นจากการเพิ่มจำนวนเงินจากน้อย ๆ ในแต่ละเดือนตามกำลังทรัพย์ที่เราไหวก่อนแล้วค่อย ๆ เพิ่มเรื่อย ๆพยายามโปะเพิ่มให้ได้มากที่สุดในช่วงนี้ เพื่อที่ตอนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้วจะได้ไม่ลำบากในอนาคตครับ

  • มีเงินก้อนต้องโปะ

ถ้าเป็นไปได้ในทุก ๆ ปีเราควรที่จะเอาเงินก้อนไปโปะเพื่อให้ดอกเบี้ยที่คุณะต้องเสียก็ยังลดลงอีกด้วย อย่างเช่น ถ้าคุณเป็นพนักงานบริษัททุก ๆ สิ้นปี จะได้โบนัสก็อาจจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งมาโปะค่าบ้าน เป็นต้น

  • ปรับโครงสร้างหนี้ใหม่

การปรับโครงสร้างหนี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของคนที่ผ่อนบ้านลดต้นลดดอก

อย่างที่รู้ ๆ ครับว่า การผ่อนบ้านจะมีรูปแบบดอกเบี้ยแบบ MRR ซึ่งในปีต่อ ๆ ไปจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น เช่น จากเดิม 3% แต่เมื่อผ่านไป 3 ปีกลับเป็น 6.5% ทำให้คุณต้องจ่ายเพิ่มอีกจำนวนมาก แถมที่ต้องจ่ายก็เป็นดอกเบี้ยเสียส่วนใหญ่ไม่ใช่เงินต้น แต่คุณสามารถปรับโครงสร้างหนี้ใหม่เพื่อปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ โดยมีอยู่ 2 วิธี คือ

  • Refinance (รีไฟแนนซ์)

การ Refinance (รีไฟแนนซ์) เป็นวิธีที่จะย้ายหนี้เดิมของคุณจากธนาคารหนึ่ง ไปอีกธนาคารหนึ่ง ซึ่งธนาคารใหม่จะเสนออัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าทำให้คุณสามารถปิดหนี้ได้เร็วขึ้น จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดภาระการผ่อนบ้านให้กับคุณได้
ผ่อน ทาวน์โฮม

  • Retention (รีเทนชัน)

ในการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องย้ายไปธนาคารอื่น เพราะเนื่องจากธนาคารหลายๆ แห่งก็มีโปรโมชั่นในการปรับอัตราดอกเบี้ยกับที่เดิม เรียกว่า Retention (รีเทนชัน) ซึ่งจะมีความยุ่งยากน้อยกว่าการย้ายไปรีไฟแนนซ์กับธนาคารอื่น โดยเฉพาะถ้าคุณมีประวัติการชำระหนี้ที่ดีมาโดยตลอด ธนาคารจะยิ่งอนุมัติการรีเทนชันเพื่อปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ง่าย

แต่อย่างไรตาม เราต้องอ่านสัญญาให้ดีก่อนว่าคุณสามารถทำการปรับโครงสร้างหนี้ได้ตอนไหน ซึ่งปกติแล้วจะสามารถทำได้เมื่อมีอายุสินเชื่อตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป หากคุณทำไม่ตรงตามเงื่อนไขสัญญาและรีไฟแนนซ์ก่อน คุณอาจจะต้องเสียค่าปรับจากธนาคารเดิมเป็นจำนวนมากซึ่งจะไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปอย่างแน่นอนครับ

  • ติดตามข่าวสาร มองหาโปรโมชั่นเสมอ
    ผ่อน ทาวน์โฮม

แน่อนอนว่าแต่ละธนาคารจะต้องมีโปรโมชั่นสินเชื่อสำหรับคนที่จะซื้อบ้านในแต่ละเวลาออกมา เช่นโปรลดดอกเบี้ย 3 ปี หรือโปรยืดระยะเวลาผ่อนแต่คุณต้องติดตามข่าวสารจากธนาคารเหล่านั้นดี ๆหากคุณไม่ได้ติดตามข่าวสารตลอดเวลาและติดต่อช้าเกินไปล่ะก็ คุณอาจจะพลาดโอกาสดี ๆ ที่จะลดภาระทางการเงินของคุณได้

  • อย่าสร้างหนี้สินเพิ่ม

ข้อสุดท้ายสำคัญมากครับเราต้องมีวินัยมาก ๆ ในการผ่อนบ้านในแต่ละเดือนและเราต้อง ไม่สร้างหนี้สินเพิ่ม เพราะการผ่อนบ้านเป็นภาระที่ใหญ่มาก ถ้าเรายังสร้างภาระเพิ่มโดยการซื้อของที่ไม่จำเป็นอีกหนี้สินของคุณก็ยิ่งเพิ่มขึ้นทับซ้อนกันอีก อนาคตคุณอาจต้องแบกรับภาระการผ่อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่อไปไม่จบไม่สิ้น

เท่านี้หนี้บ้านทาวน์โฮมก็หมดเร็วกว่าที่กู้ไว้ ติดตามข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับทาวน์โฮม ได้ที่ townhomeplus.com

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here