อยากจะซื้อบ้าน มาดูรีวิว ทาวน์โฮม pantip ขั้นตอนการซื้อบ้านต้องทำอย่างไร
ใน pantip มีรีวิวจากสมาชิกที่ซื้อทาวน์โฮม ให้ผู้ที่กำลังศึกษาข้อมูลเพื่อจะซื้อทาวน์โฮมได้ศึกษากันก่อนจะตัดสินใจซื้อ จะขอยกตัวอย่างกระทู้ที่น่าสนใจจากสมาขิก pantip ที่ได้ลงขั้นตอนการซื้อบ้านอย่างละเอียดมาให้ผู้ที่อยากได้ข้อมูลว่าเวลาเราจะซื้อบ้านนั้นจะต้องทำอย่างไรบ้าง
- ตั้งงบประมาณไว้ล่วงหน้า สิ่งสำคัญในการซื้อบ้าน คือ การตั้งงบประมาณให้สอดคล้องกับรายได้และบ้านที่เราต้องการ โดยครอบคลุมทั้งเงินจอง เงินดาวน์ เงินผ่อนรายเดือน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าใช้จ่ายวันโอน
ซึ่งมีหลักเกณฑ์เบื้องต้นในการตั้งงบประมาณอย่างง่าย ๆ คือ งบประมาณที่จะใช้ในการซื้อบ้านควรอยู่ที่ 3 เท่าของรายได้ต่อปีของผู้ซื้อ และผู้ซื้อต้องมีความสามารถในการผ่อนชำระเงินกู้กับสถาบันการเงิน โดยคิดเป็นจำนวนประมาณ 30% ของรายได้ต่อเดือน ซึ่งงบประมาณดังกล่าวจะยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ผู้ซื้ออาจจะต้องชำระต่อไปในอนาคต ดังนั้นสำหรับคนที่ต้องการยื่นกู้สินเชื่อควรจ่ายหนี้ให้ตรงเวลา และ/หรือปิดหนี้ที่มีอยู่ให้หมด เพราะหากหนี้ยังคงค้างอยู่ก็จะทำให้ได้ยอดกู้น้อยลง
นอกจากนี้ผู้ซื้อจะต้องสำรองค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการซื้อบ้านและที่ดินหลังรับโอนบ้านเรียบร้อยแล้ว เช่น
– ค่าตกแต่งภายในบ้าน ในกรณีที่ไม่ใช่โครงการพร้อมอยู่
– ค่าติดตั้งวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นในบ้าน เช่น ปั๊มน้ำ แท็งก์น้ำ เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ
– ค่าจัดสวน หรือต่อเติมต่าง ๆ เช่น มุ้งลวด เหล็กดัด กันสาด
– ค่าสาธารณูปโภคและค่าส่วนกลางของโครงการ ผู้ซื้อต้องตรวจสอบว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวครอบคลุมอะไรบ้าง เช่น ค่าบริการ เก็บขยะ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ายาม รักษาการณ์ เป็นต้น
- ตระเวนดูบ้านและเปรียบเทียบข้อมูลแต่ละโครงการ เลือกทำเลและโครงการที่ใช่ ตั้งเป้าหมายว่าอยากซื้อบ้านแล้ว สิ่งที่ต้องทำในลำดับต่อมา คือการตั้งโจทย์ถามตัวเองว่า อยากได้บ้านพักแบบไหน เช่น อยากได้บ้านเดี่ยว บ้านทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด หรือคอนโดฯ แล้วพิจารณาว่าอยากอยู่ทำเลไหนดี เช่น ทำเลแนวรถไฟฟ้า ทำเลใจกลางกรุงเทพฯ หรือทำเลชานเมือง เป็นต้น ควรหาไว้ในใจประมาณ 3 – 4 โครงการ เพื่อเอาไว้เปรียบเทียบ และเลือกโครงการที่ถูกใจที่สุด
- จองบ้าน ทำสัญญา และผ่อนดาวน์ เมื่อได้บ้านทาวน์โฮมที่ต้องการแล้ว ต่อไปก็ต้องวางเงินจอง หรือเงินมัดจำ ซึ่งโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3 – 5% ของราคาบ้าน โดยเงินจองบ้านตรงนี้สามารถจ่ายได้ทั้งเงินสดและบัตรเครดิตตามที่เราสะดวกได้เลยค่ะ แต่ว่าต้องคิดให้รอบคอบดี ๆ ก่อนจะจ่ายเงินจอง เเมื่อจองแล้ว จะไม่ได้เงินคืนกลับมาที่หลังนั่นเอง ถัดมาก็จะเป็นการทำสัญญาจะซื้อจะขาย แล้วเริ่มต้นทยอยผ่อนดาวน์ โดยระยะเวลาการผ่อนดาวน์จะใกล้เคียงกับระยะเวลาก่อสร้างของโครงการ เช่น สมมติโครงการต้องใช้เวลาก่อสร้าง 10 เดือน เราก็อาจจะต้องผ่อนชำระเงินดาวน์ 10 งวด เป็นต้น ดังนั้นก่อนทำสัญญา ให้ตรวจสอบข้อนี้ให้ดี เพื่อที่เราจะได้นำมาวางแผนค่าใช้จ่ายต่อเดือน
- ยื่นกู้ธนาคาร หากใครซื้อบ้านด้วยเงินสดก็สามารถข้ามขั้นตอนนี้ เพราะกรณีซื้อด้วยเงินสด เมื่อบ้านสร้างเสร็จก็สามารถนัดโอนบ้านแล้วจ่ายเงินได้เลย แต่ถ้าใครต้องการทำเรื่องกู้กับธนาคารเพื่อนำมาซื้อบ้าน ตรงนี้โดยปกติโครงการจะแจ้งให้เราทำเรื่องขอสินเชื่อกับธนาคาร เมื่อโครงการก่อสร้างไปได้ 80 – 90% แต่บางโครงการก็อาจมีบริการในส่วนนี้ให้ ด้วยการเป็นผู้ดำเนินเรื่องขอสินเชื่อกับธนาคารให้โดยตรง
- ตรวจรับงานก่อสร้าง ขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนที่เราทุกคนต้องละเอียดรอบคอบ เพราะเป็นขั้นตอนที่เกิดขึ้นใกล้กับการยื่นกู้ขอสินเชื่อ โดยเมื่อบ้านก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางโครงการก็จะแจ้งให้เรามาตรวจรับงานก่อนโอนกรรมสิทธิ์ ดังนั้น เราจึงต้องตรวจสอบความเรียบร้อยของบ้านอย่างละเอียด หากพบปัญหาตรงส่วนไหนไม่ถูกต้องก็ต้องรีบแจ้งโครงการ เพื่อให้โครงการปรับปรุงแก้ไขสภาพบ้านให้สมบูรณ์ตามที่ระบุเอาไว้ในสัญญา
- โอนกรรมสิทธิ์ มาถึงขั้นตอนสุดท้ายกันแล้ว ในขั้นตอนนี้ ทั้งฝ่ายผู้ซื้อ ผู้กู้ และผู้ขาย หรือทุกฝ่าย ต้องไปพบกันที่สำนักงานที่ดินเพื่อโอนกรรมสิทธิ์ แต่บางกรณีโครงการบางแห่งก็อาจดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์แทนผู้ซื้อให้เลย ซึ่งหลังจากการโอนกรรมสิทธิ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ซื้อจะมีสภาพเป็นลูกหนี้ของธนาคาร มีหน้าที่ผ่อนชำระเงินจนครบที่ระบุไว้ในสัญญา และหลังชำระเงินครบหมดแล้ว กรรมสิทธิ์บ้านก็จะตกเป็นของผู้ซื้อโดยสมบูรณ์
นอกจากนั้นพอได้บ้านทาวน์โฮมมาแล้ว ก็จะต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งให้พร้อมเข้าอยู่ ลองมาดูว่าเราควรจะเลือกทำอะไรบ้าง เพื่อให้ทาวน์โฮมพร้อมก่อนจะย้ายเข้าอยู่
1.ต่อเติมโรงรถ ครัวหลังบ้าน หรือส่วนอื่นๆ
ทำไมเราถึเลือกมาเป็นอันดับแรก เพราะว่าในบางครั้งในการต่อ เติมอาจต้องมีการลงเสาเข็ม การก่อผนังหรือก่อครัวใหม่ ซึ่งเป็นอะไรที่เละเทอะพอสมควร
2.งานBuilt-In เฟอร์นิเจอร์
การติดตั้งเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน และหากบางโครงการมีการแถมเฟอร์นิเจอร์ , วอลล์เปเปอร์ หรือแอร์ให้แล้วนั้น หากเราจะทำการบิ้วอินภายหลั งก้อไม่ยากคะ สามารถแจ้งทางช่างบิ้วอิน ทางทีมช่างจะมีการป้องกันความเสียหายโดยการห่อหุ้มพลาสติกให้อย่างดี
3.ติดมุ้งลวด เหล็กดัด
เป็นขั้นตอนที่จะติดก่อนหรือหลังแอร์ก้อได้ หากแต่ว่าต้องทำมุ้งลวดหรือ เหล็กดัดก่อน ในส่วนที่จะต้องติดแอร์ควรจะแจ้งช่างไว้เพื่อเผื่อระยะไว้สำหรับติดแอร์
4.ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ
ควรติดก่อนทำการติดวอลล์เปเ ปอร์ หรือ ผ้าม่าน เพราะว่าการติดตั้งแอร์ในบา งครั้งหากช่างที่ไม่ชำนาญ อาจทำการเจาะผิดพลาด ติดตั้งไม่เหมาะสมทำให้เกิด มีท่อน้ำรั่วได้ ทำให้วอลล์หรือผ้าม่านที่ติ ดไปเกิดความเสียหายได้
5.ติดวอลเปเปอร์ (Wallpaper)
หลังจากติดตั้ง ทุกอย่างเรียบร้อยก็ถึงขั้นตอนการติดวอลเปเปอร์ ทางเราเอาไว้ในขั้นตอนหลังๆ เพราะหากบางคนมีการบิ้วอินเฟอร์นิเจอร์ก่อน จะทำให้ส่วนการติดวอลล์ประหยัดขึ้นเยอะมาก
6.ติดตั้งผ้าม่าน (curtains)
เป็นขั้นตอนท้ายๆ การตกแต่งบ้านเพราะป้องกันผ้าม่านเปื้อนหรือสกปรก ก่อนการใช้งานจริง
ถือว่าเป็นข้อมูลสำหรับการเตรียมตัวจะมีบ้านตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงย้ายเข้าบ้านกันเลย ข้อมูลเกี่ยวกับทาวน์โฮมดี ๆ ติดตามได้ที่ townhomeplus.com