บ้านพัก คืออะไร แบบไหนที่จะเหมาะสำหรับการเดินทางแต่ล่ะรูปแบบ
บ้านพักหมายถึงที่อยู่อาศัยที่ใช้ในการพักอาศัยชั่วคราว โดยส่วนมากจะใช้เป็นที่พักอาศัยสำหรับผู้ที่มีการเดินทางไกล หรืออาศัยชั่วคราวเพื่อทำงาน บ้านพักสำหรับการท่องเที่ยวมักจะออกแบบมาให้เหมาะสมกับการพักผ่อนและเป็นที่ตั้งที่ดีสำหรับการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่นั้น ๆ มักจะตั้งอยู่ในทำเลที่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยว มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นสำหรับการท่องเที่ยว เช่น การเช่าจักรยาน เรือพาย หรือรถยนต์ ออกแบบมาให้สวยงามและสะดวกสบายสำหรับผู้เข้าพัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดสวนหรือพื้นที่ส่วนกลางให้สวยงามและเหมาะสมกับการพักผ่อน มีบริการที่ดีและอยู่ใกล้เคียง เช่น ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และสถานีบริการน้ำมัน เพื่อให้ผู้เข้าพักสามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ มีความเป็นส่วนตัวและอยู่ในบริเวณที่เงียบสงบ
โดยประเภทของบ้านพักหรือที่พักสำหรับท่องเที่ยวนั้น แบ่งออกได้หลายประเภทและสามารถเลือกให้เหมาะกับการเข้าได้
โฮสเทล (Hostel)
โฮสเทล (Hostel) เป็นที่พักที่มีราคาประหยัดและเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวแบ็กแพ็กเกอร์ โดยส่วนใหญ่จะมีห้องพักรวมที่เรียกว่า Dormitory ซึ่งมีเตียงหลายเตียง เช่น เตียง 2 ชั้น อยู่ในห้องเดียวกัน และมักมีห้องน้ำรวมกัน (แต่บางแห่งมีห้องน้ำส่วนตัวบริการด้วย) บางโฮสเทลยังแบ่งห้องพักเป็นชาย-หญิงเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบาย โดยโฮสเทลมักมีพื้นที่ส่วนกลางไว้ให้เหล่าแบ็กแพ็กเกอร์ได้นั่งคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน โดยโฮสเทลเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพื่อพบเจอคนใหม่และมีงบประหยัดในการเข้าพัก เหมาะสำหรับผู้คนที่พร้อมจะมีประสบการณ์การพักผ่อนแบบที่ไม่เหมือนกับการเข้าพักในโรงแรมทั่วไป
เบดแอนด์เบรกฟาสต์ (Bed and Breakfast หรือ B&B)
บ้านพักประเภทเบดแอนด์เบรกฟาสต์ (Bed and Breakfast หรือ B&B) เป็นที่พักที่มีคอนเซ็ปต์ให้บริการที่พักพร้อมอาหารมื้อเช้าเท่านั้น โดยส่วนใหญ่เป็นบ้านของคนในพื้นที่ที่เปิดบ้านให้นักท่องเที่ยวเข้าไปอยู่ร่วมกับเจ้าของบ้าน ซึ่งอารมณ์คล้ายกับ AIRBNB ที่นำที่พักสไตล์ B&B มาสร้างเป็นคอมมูนิตี้ ส่วนใหญ่จะมีจำนวนห้องพักน้อยกว่าโรงแรม และมักมีการตกแต่งที่อบอุ่น ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านของตนเอง อาหารมื้อเช้าจะเป็นอาหารท้องถิ่นหรืออาหารแบบต่างๆ ที่เจ้าของบ้านเตรียมไว้ให้ บ้านพักประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการติดต่อพูดคุยกับเจ้าของบ้านและเข้าถึงวิถีชีวิตท้องถิ่นในแบบของคนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการพักผ่อนแบบส่วนตัว และต้องการที่พักที่มีบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง
โฮมสเตย์
โฮมสเตย์มีลักษณะคล้ายกับ B&B ในเรื่องของการเปิดบ้านเพื่อให้คนเข้าพัก แต่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยในโฮมสเตย์จะมีกิจกรรมท่องเที่ยวและการเรียนรู้วิถีชีวิตในชุมชนเพิ่มเติมเข้าไป และที่สำคัญกว่า B&B คือการให้บริการอาหารและกิจกรรมท่องเที่ยวเป็นแบบเป็นกันเองของเจ้าบ้าน ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ที่เป็นธรรมชาติและอบอุ่นกับชุมชนในพื้นที่นั้นๆ อีกทั้งยังสามารถมองเห็นวิถีชีวิตของคนในพื้นที่และเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆได้อีกด้วย
เกสต์เฮ้าส์
เกสต์เฮ้าส์มีความคล้ายคลึงกับโรงแรม แต่โรงแรมมีบริการอย่างครบวงจร มีหลากหลายประเภทของห้องพักให้เลือก ส่วนเกสต์เฮ้าส์มักมีความเน้นในความคุ้มค่าและราคาถูกกว่า บางครั้งอาจมีบริการเสริมอย่างเช่นอินเทอร์เน็ตไร้สาย แต่ยังไม่ได้รับการจัดเตรียมอย่างครบวงจรเหมือนโรงแรม ทั้งนี้ ยังมีความแตกต่างกันได้ตามสถานที่และเจ้าของธุรกิจด้วย อย่างไรก็ตาม เกสต์เฮ้าส์ยังมีลักษณะเฉพาะเจาะจงบางอย่างเช่น เป็นบ้านที่มีห้องพักว่างอยู่และสามารถให้เช่าในช่วงเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน หรือบ้านที่มีห้องพักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการอาหารเช้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ (Serviced Apartment)
เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ (Serviced Apartment) เป็นที่พักที่เน้นการพักอาศัยระยะยาวมากกว่า 4 คืนขึ้นไป มีบริการ Housekeeping เหมือนโรงแรม และบางที่มีบริการอาหารด้วย หน้าตาที่พักมักคล้ายห้องในคอนโด มีเตา หม้อ และภาชนะสำหรับทำอาหารเบาๆ เตรียมไว้ให้ บางที่จะกำหนดการจองขั้นต่ำ เช่น 4 คืน หรือ 1 สัปดาห์ การเข้าพักในเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์สามารถให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเองได้มากขึ้น และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสถานที่พักที่สะดวกสบายและเหมาะกับการเข้าพักในระยะยาว
บางที่เซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ยังมีบริการซักอบรีดและเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติมเช่น ทีวี, ตู้เย็น และเครื่องซักผ้าอยู่ในห้องพักด้วย โดยเซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์มักจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าโรงแรมหรือกันเอง เนื่องจากมีบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากกว่า และเป็นที่พักสำหรับผู้ที่ต้องการพักอาศัยระยะยาวหรือครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันในสถานที่ที่เหมือนบ้านของตนเอง
รีสอร์ต (Resort)
รีสอร์ต (Resort) เป็นที่พักที่มีลักษณะแตกต่างจากโรงแรม โดยรีสอร์ตมักตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ทะเล ภูเขา หรือน้ำตก โดยมักมีสิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมที่เหมาะสมสำหรับการพักผ่อน เช่น สระว่ายน้ำ สปา ฟิตเนส การ์ดเทนนิส หรือกอล์ฟ เป็นต้น รีสอร์ตมักมีลักษณะการตกแต่งที่สวยงามและใช้สีสันสดใส เพื่อสร้างบรรยากาศการพักผ่อนแบบเพลิดเพลิน โดยมีการออกแบบตกแต่งที่ตรงกับธรรมชาติและเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้เข้าพัก บางรีสอร์ตอาจมีเนื้อที่ใหญ่กว่าโรงแรม และมีหลายหลังที่สามารถให้เช่าแบบทั้งหลังได้
รีสอร์ตยังมีบริการที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน และช่วยลดความเครียด เช่น สปา และการจัดสัมมนา เน้นการให้บริการที่มีคุณภาพเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า ให้บริการด้านอาหารและเครื่องดื่มที่คุณภาพสูง ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้รีสอร์ตมีราคาที่สูงกว่าโรงแรมและที่พักอื่นๆอีกด้วย
สนใจข้อมูลบ้านพักในรูปแบบอื่น ๆ ติดตามได้ที่ townhomeplus.com