อยากลงทุนซื้อทาวน์โฮม ขายเพื่อเก็งกำไร มาดูข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจกัน
สำหรับนักลงทุนการเลือกซื้อบ้านทาวน์โฮมเพื่อเก็งกำไรก็เป็นอีกวิธีของการลงทุนที่ได้รับความนิยมมานาน สำหรับมือใหม่ด้านการลงทุนอาจจะยังลังเลว่าจะนำเงินเก็บหรือเงินที่มีอยู่ใหงอกเงยด้วยก็ซื้อทาวน์โฮมเพื่อเก็งกำไรขายต่อให้อนาคตดีหรือไม่
เรามีข้อมูลเพื่อให้ใช้สำหรับการประกอบตัดสินใจก่อนจะลงทุน
ข้อดีของการลงทุนซื้อบ้านทาวน์โฮมเพื่อหวังได้กำไรในอนาคต
1.ลงทุน แบบเก็งกำไรได้
อย่างแรกเลย ขอให้ลองนึกถึง การซื้อทาวน์โฮมมาสักแห่ง แล้วเวลาผ่านไป 1-2 ปี ปรากฏว่า ทำเลที่ตั้งของทาวน์โฮมที่เคยลงทุนซื้อไว้เกิดบูมขึ้นมา ทำให้กลายเป็นแหล่งการค้า หรือย่านธุรกิจแห่งใหม่ แน่นอนว่าบ้านหลังนั้นมีมูลค่าที่สูงขึ้น สามารถปล่อยขายได้โดยเก็งกำไรมูลค่าที่สูงขึ้นจากราคาซื้อได้
- ลงทุน แบบปล่อยเช่าได้
หากการลงทุนซื้อทาวน์โฮมอยู่ในทำเลที่ดีเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่ทำงาน หรือมหาวิทยาลัย มีมีคนอยู่คึกคัก ก็เป็นโอกาสดีที่จะสร้างกำไรจากทาวน์โฮมได้ เพียงแค่ลงทุนตกแต่งภายในให้มีความสวยงาม สะอาด และเหมาะกับการอยู่อาศัย จากนั้นก็ปล่อยเช่าแบบรายเดือน ช่วยสร้างผลกำไรได้ในระยะยาว
- ช่วยในเรื่องการลดหย่อนภาษีได้
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการเป็นเจ้าของทาวน์โฮฒ ก็คือ การลดหย่อนภาษีได้ เพราะการเป็นมนุษย์เงินเดือน หากมีรายได้เกินตามที่ภาครัฐกำหนดไว้ จะต้องเป็นบุคคลผู้เสียภาษีตามกฎหมาย ถ้ายังมีภาระในการผ่อนชำระด้วยแล้ว สามารถที่จะนำมาลดหย่อนภาษีได้ สูงสุด ถึง 100,000 บาท
- ทาวน์โฮม สามารถขายฝากได้
สำหรับใครที่เป็นเจ้าของทาวน์โฮมหลายแห่ง และมีความจำเป็นในการใช้เงิน ก็สามารถที่จะนำไปขายฝาก เพื่อให้ได้เงินก้อนมาใช้ในยามจำเป็นได้ เพียงระยะเวลาหนึ่ง และนำเงินไปไถ่ถอนซื้อคืน ภายในระยะเวลาที่กำหนดตามสัญญาขายฝาก นับจากวันที่ขายฝากไปแล้ว เรียกได้ว่า ได้เงินมาหมุนก่อน และถ้าอยากได้คืน ก็สามารถซื้อกลับมาได้นั่นเอง
- ทาวน์โฮม กลายเป็นที่อยู่อาศัยได้
หากขายไม่ได้ หรือ ทำกำไรได้ยากจริง ๆ ก็สามารถใช้เป็นที่พักอาศัยได้ในอนาคต ไม่ว่าจะให้ลูกหลาน หรือจะเป็นบ้านพักในยามเกษียณก็ตาม
เลือกซื้อทาวน์โฮมแบบไหน เวลาจะขายหรือใช้เช่าจะโดนใจผู้ซื้อ
1.ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ
ทาวน์โฮมที่อยู่ลึก ห่างไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ติดถนนใหญ่ ไม่ใกล้โรงพยาบาล แหล่งชุมชน แม้จะสวยงามหรือตอบโจทย์เรื่องฟังก์ชั่นการอยู่อาศัยในบ้านเพียงใด แต่ก็อาจไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้การขายต่อเป็นเรื่องยาก ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อทาวน์โฮม ทำเลที่เลือกจึงต้องเป็นทำเลศักยภาพ รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่อการใช้ชีวิตอย่างครบถ้วน
2.รูปแบบทาวน์โฮมต้องตอบโจทย์การอยู่อาศัย
ทาวน์โฮมตำแหน่งหัวมุม คือตำแหน่งที่ขายดีที่สุด ถูกจองก่อนตำแหน่งอื่นๆ เสมอ เพราะมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า ไม่ถูกขนาบด้วยบ้านหลังอื่น และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า อีกทั้งทาวน์โฮมที่มีหน้าบ้านกว้างขวาง เพียงพอต่อการจอดรถ ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน นอกจากนี้แล้ว ยังต้องคำนึงถึงเรื่องขนาดห้อง แปลนบ้าน ทิศทางลม ทิศทางแดดด้วย โดยถ้าเลือกอย่างถูกต้อง นอกจากจะอยู่อาศัยได้สบายแล้ว เวลาขายต่อก็ไม่ใช่เรื่องยากเช่นกัน
3.เป็นทาว์โฮมโครงการคุณภาพน่าเชื่อถือ
ทาวน์โฮมโครงการเล็กๆ ที่แม้จะมีรูปแบบบ้านสวยงาม แต่ถ้าการจัดระเบียบภายในโครงการไม่ตอบโจทย์ ไม่มีระเบียบ ไม่มีการบริหารจัดการภายในที่ดี ชีวิตการอยู่อาศัยก็จะไม่มีคุณภาพ และเมื่อเวลาผ่านไป หากไม่มีผู้ดูแลไม่มีนิติบุคคลหมู่บ้านที่มีความรับผิดชอบ โครงการทาวน์โฮมนั้นก็กลายเป็นหมู่บ้านไร้ระเบียบ ที่บรรยากาศการอยู่อาศัยไม่น่าอยู่ ทำให้เวลาขายต่อจะดึงดูดผู้ซื้อได้ยาก ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อทาวน์โฮม จึงต้องเลือกซื้อจากโครงการที่มีคุณภาพน่าเชื่อถือ มีการบริหารจัดการส่วนกลางที่ดี เป็นระเบียบ
ถ้าเราต้องการจะขาย ทาวน์โฮม มีเทคนิคในการขายอย่างไรให้สามารถขายได้เร็ว
- ตั้งราคาให้เหมาะสม อาจจะประเมินจากราคากลางหรือราคาตลาดในขณะถ้าหวังกำไรสูงเกินไป ก็อาจจะขายได้ยาก
- สร้างความน่าสนใจให้สินค้า เพิ่มมูลค่าด้วยการปรับปรุงสินค้าให้สวยงามเหมือนใหม่ เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความยืดหยุ่น และมีประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังต้องใช้รูปภาพสวย ๆ ดึงดูดความสนใจ และให้ข้อมูลรายละเอียดที่ครบถ้วน
- ลงประกาศขายที่อยู่อาศัย สามารถถ่ายรูปบ้านในมุมต่าง ๆ ที่ต้องการนำเสนอ พร้อมกับเตรียมข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ทำเลที่ตั้ง ขนาดพื้นที่ต้องตัวบ้าน ระบบสาธารณูปโภคในบริเวณใกล้เคียง แล้วก็นำไปลงประกาศตามแหล่งต่าง ๆ
- ตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่ผู้ขายต้องรับผิดชอบ ค่าธรรมเนียมการโอนบ้าน คิดเป็น 2% ของราคาประเมินที่ดินรวมสิ่งปลูกสร้าง โดยทั่วไปจะแบ่งจ่ายกันคนละ 1% ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย , ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยทั่วไปเป็นค่าใช้จ่ายของผู้ขาย คิดเป็น 3.3% ของราคาซื้อขาย,ค่าอากรแสตมป์ โดยทั่วไปเป็นค่าใช้จ่ายของผู้ขาย คิดเป็น 0.5% ของราคาซื้อขาย,ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีที่ผู้ขายเป็นบุคคลธรรมดา ผู้ขายต้องชำระค่าภาษีนี้เพราะเป็นผู้มีรายได้จากธุรกรรมซื้อขาย
- หากไม่มีความรู้และประสบการณ์ในการขาย รวมถึงเรื่องกฎหมาย การเงิน ขั้นตอนทางราชการ การขายอสังหาริมทรัพย์อาจเป็นเรื่องยากและซับซ้อน แนะนำให้ใช้บริการนายหน้า เพื่อลดความยุ่งยากที่เราจะต้องจัดการเอง
และนี่ก็เป็นข้อมูลดี ๆ สำหรับการลงทุนกับทาวน์โฮม ซึ่งยังมีข้อมูลอื่น ๆ ให้ได้ติดตามกันอีกที่ townhomeplus.com