อยากซื้อบ้านทาวน์โฮม มือสอง เลือกอย่างไรดี ให้ไม่ผิดหวัง
บ้านทาวน์โฮม มือสอง เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนงบกำจัด ราคาของมือสองจะไม่สูงเท่าบ้านมือหนึ่ง ในย่านหรือทำเลเดียวกัน สำหรับคนที่อยากมีบ้านและสนใจบ้านมือสอง อาจจะต้องดูปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นทำเล โครงสร้างอาคาร ตัวบ้าน พื้นที่ใช้สอย การเดินทาง รวมทั้งบรรยากาศในหมู่บ้านและเพื่อนบ้าน ที่จะต้องพิจารณาให้รอบด้าน
1.ทำเลและสิ่งแวดล้อม
การจะเลือกซื้อบ้านทาวน์โฮมนั้น สิ่งแรก ๆ ที่เราจะต้องพิจารณาก็คือทำเลในย่านนั้น ด้วยทำเลที่ดีนั้น มีส่วนจะทำให้มูลค่าของบ้านสูงขึ้นในอนาคต รวมไปถึงคุณภาพชีวิตของการอยู่อาศัยด้วย เราควรสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบว่ามีสถานที่ใกล้เคียงอะไรบ้าง จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเราหรือไม่ เช่น ถ้าใกล้ห้างสรรพสินค้า ใกล้ตลาด ก็จะทำให้เราสะดวกในการซื้อสินค้า จับจ่ายใช้สอย หรือถ้าใครมีอาชีพค้าขายการใกล้ตลาดก็อาจจะมีประโยชน์ในแง่ของการทำมาหากิน รวมไปถึงการเดินทาง ถนนที่ตัดผ่าน สภาพเป็นอย่างไร ถ้าเราทำงานประจำก็อาจจะดูว่า สามารถเดินทางไปทำงานได้สะดวกหรือเปล่า ส่วนสถานที่ที่เราควรหลีกเลี่ยง เช่น ใกล้บ่อขยะ แหล่งทิ้งขยะ โรงงานมีกลิ่น คนแปลกหน้าพลุกพล่านเกินไป ฟาร์มสัตว์ ที่ส่งกลิ่นรบกวน หรือจะเป็นวัด โรงเรียน ที่อาจจะทำให้เราใช้ชีวิตไม่สะดวก
ซึ่งในการเลือกทำเลนั้น ควรจะดูร่วมกับคนในครอบครัว เช่น ถ้ามีลูกใกล้โรงเรียนลูกหรือไม่ จะต้องเดินทางยังไง ถ้าในบ้านมีคนทำงานทั้งสามี ภรรยา ก็ต้องดูว่าระยะทางแต่ละจุดนั้น เหมาะสมไหม สำหรับการต้องเดินทางทุกวันนอกจากนั้น ทิศทางลมและแดด ก็เป็นเรื่องสำคัญ การที่ตำแหน่งบ้านอยู่ในทิศที่แดดส่งผลให้บ้านร้อนตลอดทั้งวัน ตัวบ้านอบลมไม่เข้า ทำให้การอยู่อาศัยไม่สบายเอาซะเลย ซึ่งทิศทางบ้านที่แนะนำ คือ บ้านควรหันหน้าไปทางทิศเหนือหรือทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพราะเป็นทิศที่ลมพัดและแดดไม่ส่องหน้าบ้าน
แล้วควรจะดูเรื่องน้ำท่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นที่ตัวบ้านเอง หรือ ย่านที่เราอยู่อาศัย เป็นพื้นที่ต่ำ มีน้ำท่วมเป็นประจำหรือเปล่า แหล่งน้ำทิ้งเป็นยังไง จะส่งกลิ่นเหม็นหรือไม่ นอกจากจะศึกษาข้อมูลด้วยตัวเอง การถามคนแถวนั้น ก็จะได้ข้อมูลก่อนจะตัดสินใจซื้อ
2.โครงสร้างอาคารและตัวบ้าน
เนื่องจากเป็นบ้านทาวน์โฮมมือสอง ซึ่งอาจจะมีอายุการใช้งานมาหลายปีแล้ว ดังนั้นก็ต้องตรวจสอบสภาพตัวบ้าน โครงสร้างของบ้านให้ดี บางทีถ้าเจอผู้ขายหมกเม็ด ไม่บอกปัญหา ถ้าเรามารู้หลังซื้อไปแล้ว ก็จะแก้ไขได้ยาก หรืออาจจะต้องเสียเงินเพิ่มโดยที่ไม่ได้วางแผนไว้ก่อน
ถ้าเราไม่มีความรู้เรื่องการก่อสร้าง อาจจะหาผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบดูโครงสร้างของอาคารดูก่อน ว่ายังอยู่ในสภาพเป็นอย่างไร มีรอยร้าว มีการทรุดตัวหรือไม่ ยิ่งถ้าเป็นโครงสร้างหลัก ถ้าไม่ได้ตรวจสอบให้ดี แล้วมาพบปัญหาภายหลัง จะแก้ไขได้ยาก นอกจากนั้นยังควรจะตรวจสอบการก่อสร้างกับกรมที่ดินด้วย ว่าการก่อสร้างนั้นตรงตามแบบที่ยื่นขอไว้หรือไม่ ถ้าไม่ตรวจสอบ แล้วมาพบว่าไม่ตรง เราอาจจะไม่สามารถปรับปรุงบ้านตามที่เราต้องการได้
นอกจากนั้นด้วยสภาพบ้านมือสอง จะต้องมีการซ่อมแซม ปรับปรุง ทั้งในส่วนที่มีปัญหา และส่วนให้ตรงกับความต้องการของเรา ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจจะต้องวางแผนดูว่าการซ่อมและปรับนั้น จะใช้งบประมาณเท่าไร เพื่อจะได้เป็นส่วนประกอบในการตัดสินใจด้วย
อีกส่วนที่เราจะต้องตรวจสอบคือคุณภาพของวัสดุที่มช้ในบ้านเดิมนั้นเป็นอย่างไร ถ้าคุณภาพไม่ดี เราจะต้องวางแผนใช้งบสำหรับเปลี่ยนหรือไม่ อีกอย่างที่เราจะดูก็เรื่องน้ำ ไฟ ว่าต่อมาเรียบร้อยไหม จะต้องมาทำอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า สุดท้ายก็จะเป็นเรื่องบริเวณรอบตัวบ้าน มีพื้นที่ว่างแค่ไหน จอดรถได้กี่คัน ถ้าเราอยากจัดสวน ทำครัวด้านนอก จะทำได้หรือไม่
3.พื้นที่ใช้สอยที่เหมาะกับความเป็นอยู่
ด้วยบ้านทาวน์โฮม เป็นลักษณะของบ้านที่พื้นที่จำกัด ก่อนจะตัดสินใจควรได้ไปดูบ้านของจริง ดูพื้นที่ใช้สอยแต่ละห้อง ว่าตรงกับที่เราต้องการหรือไม่ มีจำนวนห้องขนาดของห้อง สำหรับคนในครอบครัว เหมาะกับชีวิตประจำวันของเรา การได้ไปดูบ้านของจริง ได้สัมผัสตัวบ้าน อารมรณ์ความรู้สึกระหว่างอยู่ในบ้าน ทิศแดด ทิศของลม พื้นที่ของบ้าน เพดานสูงพอหรือไม่ ตำแหน่งหน้าต่าง อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้ดีหรือเปล่า ล้วนเป็นสิ่งเราควรเอามาประกอบการพิจารณา
4.การเดินทางและการคมนาคม
หนึ่งในเหตุผลที่หลายคนเลือกซื้อทาวน์โฮมก็เพราะทาวน์โฮมมักจะอยู่ใกล้เมืองมากกว่าบ้านเดี่ยวหรือบ้านมือหนึ่งในราคาใกล้เคียงกัน เพราะในปัจจุบันที่การจราจรแออัด หลายคนต้องใช้เวลาในการเดินทางไปทำงานหรือส่งลูกเข้าเรียนมาก การเดินทางที่อาจจะไกลเกินไป ทำให้ค่าใช้จ่ายของการเดินทางสูง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางโดยรถส่วนตัว หรือ การใช้รถสาธารณะก็ตาม รวมไปถึงเวลาที่จะต้องเสียไประหว่างเดินทางด้วย นอกจากนั้นการพิจารณาบ้านมือสอง อาจจะดูเรื่องเหล่านี้ด้วย
- ถนนกว้าง เพื่อให้การสัญจรสะดวก ขับรถง่ายขึ้น
- มีทางเข้าออกหลายทาง เพราะทาวน์โฮมบางโครงการมีขนาดใหญ่ การมีทางเข้า-ออกหลายทางจะช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับลูกบ้านที่ต้องการเดินทางถนนหลักคนละเส้น
- ไม่ไกลจากถนนใหญ่หรือปากซอย สำหรับคนที่เดินทางเข้าบ้านด้วยการเดิน หรือการออกมาต่อรถสาธารณะที่ถนนเส้นหลัก
- มีรถสาธารณะผ่าน สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวให้เดินทางได้สะดวก
ทั้งนี้ ยังอาจดูว่าถนนเส้นที่ต้องใช้เดินทางจากตัวบ้านไปที่ทำงานนั้นมักมีสภาพการจราจรเป็นอย่างไร ใกล้โรงเรียนที่อาจทำให้รถติดหรือไม่ เพื่อการเดินทางที่ง่ายและสะดวก
5.ความน่าเชื่อถือของโครงการและเพื่อนบ้าน
ข้อสุดท้ายถือเป็นเคล็ดลับสำหรับการเลือกทาวน์เฮ้าส์ที่หลายคนอาจมองข้ามไป นั่นคือ การดูความน่าเชื่อถือของโครงการและการทำความรู้จักเพื่อนบ้าน คนในหมู่บ้าน หรือคนในละแวกนั้น
การเลือกทาวน์โฮมจากโครงการที่มีประสบการณ์ มีผลงานที่ดี มีความน่าเชื่อถือ นอกจากชื่อเสียงของโครงการจะช่วยให้เรามั่นใจการรับประกันคุณภาพและระบบการจัดการได้ระดับหนึ่งแล้ว ความน่าเชื่อถือของโครงการยังมีผลต่อความยากง่ายของการขอสินเชื่อบ้านอีกด้วย เพราะหากเป็นโครงการที่มีคุณภาพ อยู่ในทำเลที่มีคนต้องการสูง ธนาคารจะมั่นใจว่าหากผู้กู้ไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ สินทรัพย์ก็ยังมีมูลค่าสามารถขายทอดตลาดได้ ทำให้ธนาคารไม่ขาดทุน
สำหรับการรู้จักเพื่อนบ้านก็เป็นอีกสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะกับทาวน์โฮมที่มีลักษณะเป็นชุมชน สมาชิกในหมู่บ้านก็คือสังคมที่เรากำลังจะต้องไปอยู่อาศัยด้วย ลองสังเกตว่าคนที่อยู่ในหมู่บ้านเป็นอย่างไร หรือตรวจสอบดูว่าเพื่อนบ้านที่ติดกับบ้านที่จะซื้อเป็นใครหรือมีพฤติกรรมอะไรที่ควรกังวลหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยและบรรยากาศความเป็นอยู่ที่ดีของครอบครัว