อยากเลือกทาวน์โฮม 2 ชั้นครึ่ง จะดีกว่าทาวน์โฮม 3 ชั้น อย่างไร
ทาวน์โฮมหรือทาวน์เฮ้าส์เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบราคาไม่แพง (มาก) เมื่อเทียบกับบ้านเดี่ยวมีโอกาสเป็นบ้านหลังแรกของมนุษย์เงินเดือนได้เลย โดยส่วนใหญ่ราคาทาวน์โฮมมักจะอยู่ที่ประมาณ 1.5-2.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณสำหรับกลุ่มเริ่มต้นทำงาน ซื้อเป็นบ้านหลังแรกพอจะจับต้องได้
สำหรับทาวน์โฮมตามกฎหมายจะพัฒนาบนที่ดินขนาดเริ่มต้นอยู่ที่ 16 ตารางวา และลักษณะของบ้านทาวน์โฮมจะเป็นบ้านแถวผนังติดกัน ซึ่งหน้าตาของบ้านทาวน์โฮมของแต่ละโครงการก็จะไม่แตกต่างกันมากนัก
จากรูปแบบบ้านในปัจจุบันเริ่มมีออกมาให้เลือกอย่างหลากหลาย แต่ภายในพื้นที่อันจำกัดทำให้บ้านที่เราเลือกส่วนใหญ่ก็ถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่ขนาดแคบๆ เช่นเดียวกัน อย่างที่เห็นกันอย่างชัดเจนก็คือรูปแบบคอนโดหรืออพาร์ทเม้นท์ขนาดเล็กที่ผุดราวกับดอกเห็ด เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนเมืองได้เป็นอย่างดี แถมยังเป็นห้องพักที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยเพียงลำพัง มีงบประมาณจำกัด
แต่ถ้าหากเลือกได้ใครๆ ก็ต้องการมีบ้านที่แบบส่วนตัวซึ่งก็คงจะต้องนึกถึงบ้านเดี่ยวที่ครอบคลุมการใช้งานได้อย่างเต็มที่ ส่วนแบบทาวน์โฮมก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
รูปแบบของบ้านทาวน์โฮม คือมีความ “สังคม” ขนาดเล็ก ที่เพื่อนบ้านมักจะรู้จักคุ้นหน้าคุ้มตากันเป็นอย่างดี สิ่งหนึ่งที่เราจะสัมผัสได้หากภายในสภาพแวดล้อมของผู้อยู่อาศัยเงียบสงบ มีเพื่อนบ้านที่ไว้ใจและเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง ยิ่งบ้านใครมีข้างบ้านที่เป็นเพื่อนสนิทกันด้วยแล้วยิ่งทำให้การอยู่อาศัยมีความปลอดภัยมากขึ้น ความเป็นชุมชนแบบนี้ทำให้เราทราบได้ว่าใครเป็นคนแปลกหน้า หากเราช่วยกันเป็นหูเป็นตาก็จะช่วยให้สามารถป้องกันโจรผู้ร้ายได้ดีกว่าแบบบ้านเดี่ยว
ทาวน์โฮมยังให้ความรู้สึกที่อบอุ่นด้วยพื้นที่ขนาดเพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้ มีพื้นที่ใช้สอยที่ถูกออกแบบมาได้อย่างคุ้มค่ากับราคาเบาๆ ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยแบบครอบครัวขนาดเล็ก มีตั้งแต่แบบ 2 ชั้นขึ้นไป ห้องนอนจะเริ่มจาก 2 -3 ห้องนอนกันเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้การดูแลเป็นแบบส่วนกลางทำให้ง่ายต่อการบำรุงรักษา ประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะเป็นการเฉลี่ยกันออกภายในโครงการ มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอ และหากเจ็บป่วยก็ยังสามารถขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านได้อีกด้วย
ก่อนจะเลือกซื้อบ้านหรือทาวน์โฮมให้ตรงใจของเรานั้นเราต้องเตรียมพร้อมในเรื่องอะไรกันบ้าง
อย่างแรกเลยเราต้องคำนึงถึงทำเลที่ตั้งของโครงการ ควรเลือกทำเลที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับเราและคนในครอบครัวได้ เรื่องนี้สำคัญนะคะ เพราะว่าการเดินทางเป็นสิ่งที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ จริงไหมคะ? ไม่ว่าจะออกไปทำงานหรือการสัญจรในชีวิตประจำวันก็ตาม ยิ่งกว่านั้นเราควรสำรวจพื้นที่ในละแวกโครงการด้วยว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง อย่างเช่น อยู่ติดรถไฟฟ้า ใกล้รถไฟใต้ดิน หรือมีห้างสรรพสินค้า, ตลาดสดให้เราหาซื้ออาหารและสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ ในการใช้ชีวิตได้หรือเปล่า
1. หน้ากว้างเท่าไร
เมื่อก่อนทาวน์โฮมส่วนใหญ่จะหน้ากว้าง 4 เมตร สามารถจอดรถได้ 1 คัน แต่ปัจจุบันหลายโครงการปรับแบบใหม่เพื่อให้มี Value มากขึ้น ด้วยการทำหน้ากว้างเพิ่มเป็นประมาณ 5 เมตร บางหลัง 5.7-6 เมตรก็มี เพื่อที่สามารถจอดรถได้ 2 คัน หลายโครงการอาจจะเคลมว่าจอดรถได้ 2 คันก็จริง แต่ขนาดหน้ากว้างกว่าย่อมดีกว่า เพราะมีพื้นที่มากกว่า
- ความลึกของหน้าบ้านทาวน์โฮม
ตามกฎหมายจะต้องลึกอย่างน้อย 3 เมตร ซึ่งพอที่จะจอดรถเก๋งเล็กได้ ซึ่งความลึกของหน้าบ้านหรือที่จอดรถมีความสำคัญพอๆ กับความกว้างของหน้าบ้าน เพราะความลึกของหน้าบ้านจะเป็นตัวบอกว่าเจ้าของบ้านสามารถจอดรถได้กี่คันด้วย บางโครงการเคลมว่าจอดได้ 2 คันจริง จอดได้ 2 คันก็จริง แต่แทบจะเปิดประตูเข้าบ้านไม่ได้ เช่น ใครที่ใช้รถกระบะซึ่งมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 5 เมตร ถ้าเราจะเลือกซื้อทาวน์โฮม และสามารถจอดรถกระบะหน้าบ้านได้ ที่จอดรถต้องลึกอย่างน้อย 5.5 เมตร
3. ความลึกของหลังบ้าน
ตามกฎหมายต้องลึกอยู่ที่ 2 เมตร แต่ถ้าโครงการไหนให้มากกว่า 2 เมตรก็แสดงว่าคนซื้อได้กำไร เพราะได้พื้นที่ดินมากกว่า (แต่ก็ต้องดูเปรียบเทียบราคาขายกับโครงการอื่นด้วย)
- เสาเข็ม
เรื่องนี้ก็สำคัญ เพราะว่าบางโครงการจะลงเสาเข็มเฉพาะตัวบ้าน หน้าบ้านบริเวณที่จอดรถ และหลังบ้านไม่ได้ลงไว้ให้ ในอนาคตถ้าอยู่ไปนานๆ อาจจะเจอปัญหาบ้านทรุดตามมา ฉะนั้นเวลาไปดูทาวน์โฮมควรถามเรื่องการลงเสาเข็มหน้าบ้านและหลังบ้านด้วยเสมอ
- ระบบก่อสร้าง
ส่วนใหญ่ทุกวันนี้งานก่อสร้างทาวน์โฮมหลายๆ โครงการใช้ระบบการก่อสร้างสำเร็จรูป ใช้ผนังสำเร็จรูปหรือระบบก่อสร้างแบบพรีแคส เนื่องจากมีความแข็งแรง ก่อสร้างได้เร็ว แต่ข้อด้อยของบ้านที่ก่อสร้างระบบสำเร็จรูปนี้ คือทุบ เจาะต่อเติมไม่ได้ ฉะนั้นถ้าใครมองเรื่องการต่อเติม เจาะ ทุบหลังจากซื้อไปก็ต้องถามโครงการก่อนนิดนึง
6. เพดานสูง
ความสูงของเพดานก็สำคัญ ตามมาตรฐานเพดานบ้านทาวน์โฮมจะสูงอยู่ที่ 2.6 เมตร แต่ถ้าโครงการไหนให้เพดานสูง 2.7-3 เมตร นั่นแสดงว่าให้มากกว่าโครงการอื่นๆ จุดเด่นของเพดานสูงคือบ้านจะโปร่งโล่งมากขึ้น และในความคุ้มค่าลูกค้าได้พื้นที่ใช้สอยในแนวตั้งเพิ่มขึ้นด้วย (บิวท์อินตู้ได้สูงขึ้น)
7. ฟังก์ชั่นห้องน้ำ
ส่วนใหญ่ทาวน์โฮม 2 ชั้น จะออกแบบให้มีห้องน้ำ 2 ห้อง คือที่ชั้น 1 และชั้น 2 อย่างละห้อง แต่สำหรับห้องน้ำชั้น 1 บางโครงการจะไม่ได้ทำที่อาบน้ำมาให้ หรือห้องน้ำเล็กเกินไป ฉะนั้นถ้าบ้านไหนสมาชิกเยอะ ห้องน้ำชั้น 1 อาบน้ำได้ก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ
คงเป็นข้อมูลดี ๆ สำหรับผู้ยังลังเลว่าจะเลือกทาวน์โฮม 2 ชั้นครึ่งหรือทาวน์โฮม 3 ชั้น ก่อนจะตัดสินใจ ศึกษาได้ก่อน ที่ townhomeplus.com